การ ปลูกไม้เลื้อย บังแดด ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยในการผลัดพลังงาน และคลายร้อนในช่วงที่อากาศร้อนในบ้านอย่างค่อนข้างได้ผลเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่มีแสงแดดค่อนข้างแรง ร่มเงาของไม้เหล่านี้ช่วยปกป้องเราจากแสงแดดได้บ้าง ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำเรื่องการปลูกไม้เลื้อยบังแดด ว่าเราจะสามารถปลูกต้นไม้ชนิดไหนได้บ้าง และมีวิธีการเตรียมตัวก่อนที่เราจะปลูกไม้เลื้อยบังแดดได้อย่างไร
เตรียมตัวสำหรับการปลูกอย่างไร
การเตรียมตัวสำหรับปลูกไม้เลื้อยนั้นไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่เราคิด ขั้นแรกเป็นขั้นการปรับปรุงดิน หากเราเลือกไม้เลื้อยที่ถูกใจได้แล้ว เราจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงดินปลูกโดยการนำดินถุง คลุกเคล้ากับปุ๋ยคอก เศษใบไม้แห้ง เศษอาหารสด หลังจากนั้นเติมน้ำให้ชุ่ม และลองกำดินที่ผสมแล้ว ถ้าจับเป็นก้อนไม่แตกและบีบจนไม่มีน้ำไหลออกมา ให้เรานำใส่ถุงดินที่ตั้งไว้ในร่มเพื่อเตรียมนำมาปลูกต้นไม้ต่อไป
ต่อไปเป็นการเลือกพันธุ์ไม้ที่เราชอบ ในปัจจุบันนั้นมีไม้เลื้อยหลากหลายชนิดมากที่เราจะมาใช้สำหรับปลูกในบ้านได้เพื่อป้องกันแสงแดด หากทำการ ปลูกไม้เลื้อย บังแดด บนหลังคาก็ได้ หรืออาจใช้การสัดส่วนพื้นที่ในบริเวณบ้านของเรา และใช้เป็นที่บังสายตาได้ แต่ละตัวก็จะมีจุดเด่นและความแตกต่างที่เห็นได้ชัด และต่อไปจะเป็นพันธุ์ไม้เลื้อยที่แนะนำ
พันธุ์ไม้เลื้อยบังแดดที่เหมาะสมกับการปลูกในบ้าน
มีไม้เลื้อยมากมายที่เหมาะสมที่จะปลูกในบ้านเพื่อใช้เป็นไม้เลื้อยบังแดด ต้นแรกที่ขอแนะนำคืออัญชัน พันธุ์ไม้เลื้อยล้มลุกขนาดเล็กที่สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 20 ฟุต อีกทั้งยังเป็นไม้เลื้อยออกดอกทั้งปี มีสีสันที่สวยงาม ด้วย วิธีการปลูกก็ไม่ยาก เพียงแค่นำเมล็ดแห้งของต้นอัญชันมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน และนำมาห่อผ้าทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วันจนรากงอก จากนั้นนำดินที่เราเตรียมไว้ใส่กระถางประมาณขอบล่าง ไม่ใส่จนเต็มกระถาง เพื่อให้มีพื้นที่เหลือสำหรับรับน้ำเวลาปลูก หลังจากนั้นรดน้ำบนดินปกติ และขุดหลุมในกระถางเพื่อวางเมล็ดอัญชัน ประมาณ 2-3 เมล็ด
ผักบุ้งรั้วหรือผักบุ้งฝรั่ง สิ่งนี้ถึงจะชื่อเป็นผักบุ้งแต่ไม่ใช่ผักบุ้งอย่างที่เราคิด แค่มีหน้าตาคล้าย ๆ กันเพียงเท่านั้นเอง สิ่งนี้มีชื่อฝรั่งว่า morning glory เป็นไม้เลื้อยอายุสั้น สามารถที่จะเลื้อยได้ไกลถึง 10 เมตร ใบจะเป็นรูปหัวใจ โคนใบเว้าเข้าหากัน ใบมีดอกรูปทรงแตรหลายสี ออกดอกเป็นช่อตามบริเวณซอกใบและปลายยอดประมาณ 1-5 ดอก มีสีฟ้าอมม่วง สีขาว สีชมพู ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีหลายสีขึ้น อย่างสีชมพู สีฟ้า สีม่วง และดอกที่มีริ้วสีขาวกระจายสวยงามมาก วิธีการปลูกให้เน้นบริเวณที่มีแสงแดดตลอดทั้งวัน ทำการรดน้ำวันละครั้งเพียงเท่านั้น และบำรุงปุ๋ยประมาณเดือนละครั้งก็พอ แต่ก็ควรที่จะตัดแต่งใบต้นและดอกอย่างสม่ำเสมอ
ชนิดสุดท้ายที่จะมาแนะนำ คือพวงชมพู ดอกไม้สีชมพูและขาวที่สามารถเลื้อยพันได้ไกลถึง 40 ฟุต สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิดที่มีความชื้น โดยออกดอกเป็นช่อหรือเป็นกระจุกตามแขนงชอบ ซึ่งแขนงจะยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ส่วนปลายท่อจากเกาะเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ เพื่อพยุงตัวเอง สามารถที่จะนำมาปลูกลงกระถางได้ แต่ต้องมีหลักสำหรับเกาะยึดขึ้นไป หรือปลูกลงในกระถางและแขวนห้อยลงมาก็ได้ หรืออาจที่จะปลูกคลุมซุ้มที่นั่งให้ร่มเงา แต่ให้พยายามปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง และรดน้ำให้ชุ่มประมาณวันละ 1-2 ครั้ง