การเลือก สีทาบ้าน ไม่มีกฎตายตัว เพราะแต่ละคนก็มีรสนิยมที่ไม่เหมือนกัน บางคนเลือกสีทาบ้านตามความชอบเป็นหลัก บางคนก็เลือกสีบ้านที่ถูกโฉลกกับตัวเอง สีทาบ้านยังบ่งบอกถึงสไตล์ของเจ้าของบ้านด้วย แต่หากใครยังไม่มีไอเดียในการทาสีบ้าน ลองดูเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการเลือกสีทาบ้านให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนี้ดูนะคะ
1. บ้านน้อยๆกลางป่า
หากมีบ้านตั้งอยู่ในป่าหรือพื้นที่โดยรอบมีแต่ต้นไม้ ให้เลือกใช้สีทาบ้านแนวเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาลอ่อน สีครีม สีเบจ จะทำให้ดูกลมกลืนไปกับต้นไม้ แต่ถ้าหากอยากให้บ้านดูเด่นก็สามารถใช้สีเอิร์ทโทนที่อ่อนลงมาอย่างสีเหลืองอ่อนๆ สีไข่
2. บ้านสวนริมน้ำ
นอกจากความเย็นของธรรมชาติริมแม่น้ำแล้ว การเลือกใช้สีทาบ้านที่ดูเย็นตาก็จะทำให้บ้านดูเย็นขึ้นไปอีก อย่างสีฟ้าอ่อน สีครีม หรือใช้สีขาวไปเลยก็ยังได้
3. เลือกสีที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
หากบ้านของเราอยู่ในที่ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทั้งแดด ลม และฝน ควรเลือกสีที่มีคุณสมบัติเฉพาะเพื่อทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศของบ้านเราได้ เพราะฉะนั้นก่อนจะรีโนเวทสีบ้าน หรือทาสีบ้านใหม่ ควรจะศึกษาสภาพแวดล้อมตรงนั้นให้ดีก่อน
4. บ้านกลางแจ้ง
นอกจากสีทาบ้านทั่วไปแล้วยังมีสีที่ช่วยลดความร้อนในบ้านได้ด้วย โดยจะทำหน้าที่เป็นเหมือนฉนวน และกระจกที่สะท้อนความร้อนออกไป ส่วนใหญ่แล้วการทาสีบ้านเพื่อช่วยลดความร้อนมักจะใช้สีในโทนเย็น เช่น สีฟ้า น้ำเงิน
5. เลี่ยงสีซ้ำกับเพื่อนบ้าน
การที่บ้านหลายๆหลังมีสีที่เหมือนกัน อาจจะทำให้ดูกลมกลืนจนเหมือนเป็นบ้านหลังเดียวกันเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นการทาสีบ้านให้แตกต่างจากละแวกใกล้เคียง จะช่วยทำให้บ้านของเราดูเด่นขึ้นด้วย
6. เน้นสีโทนกลาง
จริงอยู่ที่การใช้สีโทนกลางอย่างเช่น สีน้ำตาลอ่อน สีเบจ สีเทา อาจจะทำให้รู้สึกเบื่อ แต่หากลองเพิ่มไฮไลท์เข้าไปด้วยการตัดขอบเป็นสีอื่น หรือเพิ่มลูกเล่นบนผนัง ก็จะช่วยให้ดูน่าเบื่อน้อยลงได้ และที่สำคัญหากในอนาคตเราต้องการที่จะขายบ้าน บ้านโทนสีกลางๆมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าบ้านสีฉูดฉาดด้วย
7. สังเกตแสงธรรมชาติ
นอกจากสีของสิ่งแวดล้อมภายในบ้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้บ้านดูเด่นหรือดรอปลงนั่นก็คือแสงธรรมชาติ แสงในตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น และตอนกลางคืนก็มีผลต่อสีของบ้านได้เช่นกัน
อ่านบทความเพิ่มเติม
https://deco-4you.com/tips/
เครดิตภาพ
https://google.com/