ในชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ที่มีความแข่งขันสูงและเร่งรีบ ทำให้การเข้าครัวเป็นเรื่องที่คนยุคใหม่มักมองข้าม เพราะขั้นตอนและกรรมวิธีในการทำอาหารที่ยุ่งยากจึงกลายเป็นเรื่องที่ลำบากและเสียเวลามาก ๆ ในเวลาที่จำกัด แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้การทำอาหารในครัวนั้นมีความวุ่นวายน้อยลงไปค่อนข้างมาก ดังนั้นแล้วการมีครัวที่ดี สะอาดและใช้งานไม่ยาก เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การเข้าครัวของคนยุคใหม่เป็นอย่างมาก
แล้วเตาไฟฟ้าแบบไหนดีที่จะตอบโจทย์การใช้งานและเหมาะกับครัวของเรา
เตาไฟฟ้า แบบตั้งโต๊ะ (Single)
เพียงวางเตาไฟฟ้าในพื้นที่ที่มีพื้นที่ว่างพอเหมาะก็สามารถใช้งานได้เลย
เตาไฟฟ้า แบบบิ้วท์อิน (Build in)
จะมีความยุ่งยากกว่าแบบตั้งโต๊ะ เพราะต้องทำการเจาะช่องโดยช่างผู้เชี่ยวชาญรวมถึงการเดินสายไฟต่าง ๆ เพื่อใช้งาน
1. เตาไฟฟ้า (Electric Stove)
เตาไฟฟ้า จะใช้ไฟฟ้าไปกระตุ้นวงจรภายในเพื่อสร้างความร้อน โดยมีขดลวดเป็นตัวนำความร้อน ซึ่งวิธีการใช้งานเตาไฟฟ้าก็ง่ายมาก เพียงเสียบปลั๊กไฟก็สามารถใช้งานได้ทันที สังเกตการทำงานได้จากไฟที่ปุ่ม เปิด/ปิด บางรุ่นจะมีระบบการเตือนและตัดไฟอัตโนมัติในกรณีที่ไม่ได้ใช้งาน
2. เตาไฟฟ้าอินฟราเรด (Ceramic hob)
เตาไฟฟ้าอินฟราเรด จะมีหน้าเป็นกระจกเซรามิค (Ceramic) สามารถทนความร้อนได้ดีถึง 600 เซลเซียสโดยประมาณ ด้านตัวทำความร้อนด้านใน อาจใช้เป็นขดลวดไฟฟ้า หลอดอินฟาเรดหรือหลอดฮาโลเจนก็ได้ ซึ่งทั้ง 3 ชนิดนี้มีคุณสมบัติทำความร้อนคล้ายกัน ต่างกันที่ประสิทธิภาพทำความร้อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะใช้งานจะมีสีแดงขึ้นในบริเวณที่มีความร้อน และสิ่งที่ต้องระวังคือระวังความร้อนหลังใช้งานเตาไฟฟ้าเสร็จแล้ว
3. เตาไฟฟ้าเพลทร้อน (Hot Plate)
เตาไฟฟ้าเพลทร้อน เป็นเตาไฟฟ้ายอดนิยมที่หลายคนเลือกใช้ เนื่องจากราคาไม่แพง โดยมีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายเตาแก๊ส แต่แผ่นสีดำปิดทับอยู่ด้านบน ใช้ขดลวดในการทำความร้อน ซึ่งเตาไฟฟ้าเพลทร้อนนี้มีการปรับความร้อนขึ้น-ลงค่อนข้างช้า และหากเผลอเปิดใช้งานเตาไฟฟ้านานเกินไป อาจจะเกิดอันตรายเมื่อสัมผัสหรือเกิดอัคคีภัยได้
4. เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction)
เตาแม่เหล็กไฟฟ้า มีหน้าตาคล้ายกับเตาไฟฟ้าอินฟราเรด ต่างกันในส่วนการทำความร้อน โดยใช้การเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กเพื่อให้เกิดพลังงานความร้อน จำมีข้อจำกับในการใช้อุปการณ์หรือภาชนะในการทำอาหารที่มีมีส่วนประกอบของเหล็กหรือโลหะ จำช่วยนำความร้อนได้ดีและรวดเร็วกว่า ทั้งยังมีความปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากเตาจะไม่ทำงานหากภาชนะไม่ทำไฟฟ้าและความร้อนหลังใช้งานจะหายไปค่อนข้างเร็ว
Picture Source