checklist ตรวจรับบ้าน-คอนโด ก่อนทำการโอน ที่คุณต้องรู้

ตรวจรับบ้าน-คอนโด

ใครที่เพิ่งซื้อบ้านหรือคอนโด แน่นอนว่าก่อนเข้าอยู่อาศัยเราจะต้องทำการตรวจรับบ้าน-คอนโด เช็คตามจุดต่างๆทั้งภายในและภายนอกบ้าน ก่อนที่จะทำการโอนทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าบ้านใหม่ที่เรากำลังจะเข้าไปอยู่นั้นปลอดภัย มีคุณภาพ  หากใครที่ไม่มีความรู้ในเรื่องของการ ตรวจรับบ้าน-คอนโด ก็สามารถจ้างสถาปนิกเพื่อมาตรวจบ้าน ตรวจคอนโด แต่ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก ตามขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน ส่วนใหญ่แล้วการตรวจบ้านจะมีทั้งหมด 3 ครั้ง ราคาอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น เพื่อแลกกับความสบายใจของผู้อยู่อาศัย แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเงินจ้างสถาปนิกมาตรวจรับบ้าน-คอนโด ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และยังสามารถขอคำปรึกษาจากทีมงานของโครงการอสังหาฯ ที่เราซื้อมาได้อีกด้วย  ลิสต์รายการสำหรับตรวจรับบ้านและทาวน์โฮมด้วยตัวเอง | ตรวจรับบ้าน-คอนโด checklist ตรวจบ้านก่อนโอนขั้นพื้นฐานที่เราสามารถทำเองได้ง่ายๆจากการสังเกต ตรวจสอบ เพื่อให้บ้านของเรามีประสิทธิภาพที่ดี สามารถเข้าอยู่ได้โดยไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง การตรวจบ้านก่อนโอนหลักๆคือการเช็คระบบไฟ น้ำ โครงสร้างต่างๆ ตรวจเช็คหลังคา รวมถึงภายนอกของบ้านด้วย ตรวจเช็คระบบไฟ เช็คสวิตช์และเต้ารับทุกจุดในบ้านว่าติดตั้งถูกต้อง มีสายไฟโผล่มาตรงไหนไหม ใช้เครื่องตรวจสอบเบรกเกอร์ตัดไฟรั่วไหล ระบบจ่ายไฟในบ้านทำงานได้อย่างปกติ เพื่อความปลอดภัยควรศึกษาวิธีการใช้งานของเครื่องตรวจสอบเบรกเกอร์ให้ละเอียดด้วย เมื่อระบบไฟในบ้านทำงานได้อย่างปกติแล้ว ให้เช็คมิเตอร์ไฟว่ามีการหมุนทำงานเอง โดยที่เราไม่ได้ใช้ไฟหรือไม่ ตรวจเช็คระบบน้ำ การตรวจสอบมิเตอร์น้ำทำเช่นเดียวกับมิเตอร์ไฟ คือตรวจสอบว่ามิเตอร์น้ำหมุนโดยที่เราไม่ได้ใช้งานหรือไม่ จากนั้นให้ตรวจสอบแรงดันของน้ำ ก๊อกน้ำ ฝักบัวในห้องน้ำ ชักโครก พื้นในห้องน้ำมีความลาดเอียงเพื่อให้น้ำไหลลงท่อได้สะดวกหรือไม่ ในส่วนของโซนซักล้างให้ตรวจสอบระบบท่อน้ำต่างๆว่ามีรอยแตก รั่วซึม และได้มีการต่อท่อไปยังบ่อพักหรือไม่ […]

ไอเดียแต่งคอนโดให้เช่า งบประหยัด ปล่อยห้องได้ชัวร์

ไอเดียแต่งคอนโดให้เช่า

ใครซื้อคอนโดไว้แล้วไม่ได้อยู่บ้าง จะปล่อยทิ้งไว้ก็เสียดาย จะให้เช่าห้องเปล่าๆก็ไม่ได้ราคา ถ้าอย่างนั้นลองมาแต่งคอนโดเพื่อเพิ่มมูลค่าห้อง พร้อมปล่อยเช่าคอนโดในราคาดีๆกันดีกว่า หากใครกำลังมองหา ไอเดียแต่งคอนโดให้เช่า แบบประหยัดงบ คุ้มทั้งผู้เช่าและผู้ปล่อยเช่า ลองเลือกตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ ให้มีครบทุกฟังก์ชั่น พร้อมรองรับการใช้งานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เผื่อผู้เช่ามากันเป็นครอบครัวจะได้ตัดสินใจเช่าได้ง่ายขึ้น มาชมไอเดียแต่งคอนโดให้เช่าหลากหลายสไตล์ เผื่อเป็นตัวเลือกให้ลองแต่งตามดูกันค่ะ แต่งคอนโดให้กลายเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่น | ไอเดียแต่งคอนโดให้เช่า ไอเดียแต่งคอนโดให้เช่า ให้เหมือนกับอยู่เอง ด้วยการเนรมิตห้องเปล่ากลายเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่น อบอุ่นและน่าอยู่มากๆ ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นโทนสีธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาล สีเทา เพิ่มความอบอุ่นจากแสงธรรมชาติด้วยมู่ลี่กั้นแสงหรือผ้าม่านโปร่งๆ  แต่งคอนโดขนาดเล็กให้ดูกว้าง เหมือนอยู่บ้าน | ไอเดียแต่งคอนโดให้เช่า ไอเดียแต่งคอนโดให้เช่าขนาดเล็ก ห้อง สตูดิโอขนาด 20-30 ตารางเมตร เป็นห้องที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่คนเดียว ภายในห้องจะรวมฟังก์ชั่นทุกอย่างไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ครัว ห้องน้ำ การแต่งคอนโดจึงต้องจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้คุ้มค่า แต่การอัดเฟอร์นิเจอร์เข้าไปเยอะก็จะทำให้ห้องยิ่งดูรกและแคบขึ้น จึงต้องใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ built in แยกสัดส่วนด้วยฉากกั้นห้องแบบโปร่งทำให้มองทะลุถึงกันได้ แต่งคอนโดสไตล์โมเดิร์น สวย หรู อยู่สบาย คอนโดให้เช่าสไตล์โมเดิร์นคงจะถูกใจผู้เช่าไม่น้อยเลย เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีขาว-เทา และใช้วัสดุไม้มาเพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่น […]

พิกัด แหล่งขายต้นไม้ ของแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ในกรุงเทพฯ

แหล่งขายต้นไม้

กระแสปลูกต้นไม้ในบ้านยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มสีสันให้กับบ้านแล้ว ต้นไม้บางชนิดยังทำหน้าที่ฟอกอากาศได้อีกด้วย วันนี้จะพาไปดู แหล่งขายต้นไม้ และของตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล มีทั้งต้นไม้ใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ฟอกอากาศ ให้เลือกกันแบบจุใจไปเลย แหล่งขายต้นไม้มีอยู่รอบกรุงเทพ ทั้งใจกลางเมือง แถบชานเมือง ฝั่งธน ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ ใครที่กำลังหาซื้อต้นไม้อยู่ ห้ามพลาดพิกัดแหล่งขายต้นไม้เหล่านี้เลย 1. ตลาดจตุจักร | แหล่งขายต้นไม้ หากนึกถึงแหล่งขายต้นไม้ในกรุงเทพ จะต้องมีตลาดจตุจักรติดอันดับต้นๆเลย มีต้นไม้แทบจะทุกชนิด ทั้งไม้ฟอกอากาศที่กำลังฮิตกัน ไม้น้ำ ไม้เลื้อย เฟิร์น กระบองเพชร พืชผักสวนครัว ไม้ยืนต้น รวมไปถึงกระถางต้นไม้และอีกมากมาย ราคาเริ่มต้นแค่หลักสิบเท่านั้น ซึ่งร้านจะตั้งเรียงรายตามริมถนนตลาดนัดจตุจักร สำหรับใครที่เคยไปซื้อเสื้อผ้า พอไปเจอร้านต้นไม้แล้วจะรู้สึกว่าอยู่คนละที่กันเลยล่ะค่ะ เดินออกมาจากจตุจักร แล้วข้ามถนนไปอีกฝั่งก็จะเจอกับแหล่งขายของตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล วินเทจ เครื่องใช้ในบ้าน ตะกร้าสาน รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งร้านค้าด้วย มาที่เดียวได้ครบเลยค่ะ เวลาเปิด-ปิด ของตลาดต้นไม้จตุจักร วันอังคาร 11:00-20:00 น. วันพุธ-พฤหัสบดี 6:00-18:00 น. แนะนำให้มาตั้งแต่วันอังคารเลยนะคะ เพราะพ่อค้าแม่ค้ามาลงต้นไม้กันใหม่ๆ มีให้เลือกเยอะ และสภาพดี […]

7 วิธีเลือก สีทาบ้าน อย่างไรให้เข้ากับสภาพแวดล้อม

สีทาบ้าน

การเลือก สีทาบ้าน ไม่มีกฎตายตัว เพราะแต่ละคนก็มีรสนิยมที่ไม่เหมือนกัน บางคนเลือกสีทาบ้านตามความชอบเป็นหลัก บางคนก็เลือกสีบ้านที่ถูกโฉลกกับตัวเอง สีทาบ้านยังบ่งบอกถึงสไตล์ของเจ้าของบ้านด้วย แต่หากใครยังไม่มีไอเดียในการทาสีบ้าน ลองดูเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการเลือกสีทาบ้านให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนี้ดูนะคะ 1. บ้านน้อยๆกลางป่า หากมีบ้านตั้งอยู่ในป่าหรือพื้นที่โดยรอบมีแต่ต้นไม้ ให้เลือกใช้สีทาบ้านแนวเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาลอ่อน สีครีม สีเบจ จะทำให้ดูกลมกลืนไปกับต้นไม้ แต่ถ้าหากอยากให้บ้านดูเด่นก็สามารถใช้สีเอิร์ทโทนที่อ่อนลงมาอย่างสีเหลืองอ่อนๆ สีไข่ 2. บ้านสวนริมน้ำ นอกจากความเย็นของธรรมชาติริมแม่น้ำแล้ว การเลือกใช้สีทาบ้านที่ดูเย็นตาก็จะทำให้บ้านดูเย็นขึ้นไปอีก อย่างสีฟ้าอ่อน สีครีม หรือใช้สีขาวไปเลยก็ยังได้ 3. เลือกสีที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม หากบ้านของเราอยู่ในที่ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทั้งแดด ลม และฝน ควรเลือกสีที่มีคุณสมบัติเฉพาะเพื่อทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศของบ้านเราได้ เพราะฉะนั้นก่อนจะรีโนเวทสีบ้าน หรือทาสีบ้านใหม่ ควรจะศึกษาสภาพแวดล้อมตรงนั้นให้ดีก่อน 4. บ้านกลางแจ้ง นอกจากสีทาบ้านทั่วไปแล้วยังมีสีที่ช่วยลดความร้อนในบ้านได้ด้วย โดยจะทำหน้าที่เป็นเหมือนฉนวน และกระจกที่สะท้อนความร้อนออกไป ส่วนใหญ่แล้วการทาสีบ้านเพื่อช่วยลดความร้อนมักจะใช้สีในโทนเย็น เช่น สีฟ้า น้ำเงิน  5. เลี่ยงสีซ้ำกับเพื่อนบ้าน การที่บ้านหลายๆหลังมีสีที่เหมือนกัน อาจจะทำให้ดูกลมกลืนจนเหมือนเป็นบ้านหลังเดียวกันเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นการทาสีบ้านให้แตกต่างจากละแวกใกล้เคียง จะช่วยทำให้บ้านของเราดูเด่นขึ้นด้วย 6. เน้นสีโทนกลาง จริงอยู่ที่การใช้สีโทนกลางอย่างเช่น […]

8 วิธีเลือกกระจก ให้เหมาะกับตัวบ้าน

วิธีเลือกกระจก

ในปัจจุบันมีการตกแต่งบ้านให้สวยงามและทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย มีการนำรูปแบบบ้านของชาวตะวันตกมาใช้ เพราะมีความเรียบง่าย แถมยังน่าอยู่ด้วย วัสดุที่ถูกนำมาใช้ภายในบ้านจะต้องตอบโจทย์บ้านมากที่สุด และไม่ส่งผลเสียในภายหลัง โดยเฉพาะในเรื่องของกระจก หลายคนยังสงสัยว่าจะมีวิธีเลือกกระจกอย่างไรให้บ้านสว่าง แต่ต้องไม่ทำให้บ้านร้อนด้วย วันนี้มี วิธีเลือกกระจก ที่เข้ากับบ้าน และยังสามารถรับมือกับความร้อนได้มาฝากค่ะ วิธีเลือกกระจกที่ดีควรเลือกให้เหมาะสมกับบ้าน และตรงตามความต้องการ ตอบโจทย์กับเจ้าของบ้านให้มากที่สุด สามารถประยุกต์ใช้ได้หลายงาน ซึ่งกระจกแต่ละชนิดได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับลักษณะของงานนั้นๆ 1. กระจกตัดแสงช่วยลดความร้อน กระจกบ้านที่ช่วยในเรื่องของการลดความร้อนโดยมีการใส่สีเข้าไปในเนื้อกระจก หากสียิ่งเข้มก็สามารถกันความร้อนได้มาก กระจกชนิดนี้จะมีความมืด ไม่ค่อยโปร่งเท่าไหร่ จึงมองเห็นวิวภายนอกได้ไม่ชัดเจน แต่สามารถป้องกันความร้อนไม่ให้เข้ามาในบ้านได้ประมาณ 40-50% จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 2. กระจกสะท้อนแสง กระจกเคลือบสารสะท้อน มีหน้าที่ในการสะท้อนแสงที่ส่องเข้ามาภายในบ้านให้ออกไปได้ถึง 20-30% แต่กระจกบ้านชนิดนี้มองเห็นจากด้านที่มืดกว่า ไปยังด้านที่สว่างกว่า คนภายนอกจึงมองเห็นภายในบ้านได้อย่างชัดเจนหากเปิดไฟในบ้าน ควรมีผ้าม่านกั้นอีกชั้นหนึ่งเพื่อความปลอดภัย 3. กระจกโปร่งใส กระจกใสไม่มีสี สามารถมองทะลุผ่านทั้งสองด้านได้อย่างชัดเจน มีค่าตัดแสงแค่ประมาณ 8% ผิวกระจกมีความใสไม่ร้อน แต่กระจกชนิดนี้หากแตกก็จะละเอียดเป็นชิ้นๆ และมีลักษณะแหลมคม 4.กระจกนิรภัย กระจกบ้านที่ได้รับความนิยม เป็นกระจกเทมเปอร์ 2 แผ่น ที่ยึดเข้าด้วยกันด้วยฟิล์ม Polyvinyl Butyral […]

รวม 6 ไอเดียแบบบ้านระบายความร้อน เหมาะอากาศเมืองไทยสุดๆ

ไอเดียแบบบ้านระบายความร้อน

การเลือกซื้อบ้านหรือการสร้างบ้านสักหลัง จะมาแค่มีเงินอย่างเดียวแล้วซื้อบ้าน ปลูกบ้านเลยก็ไม่ได้ เพราะทุกบ้านก็มีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นความสวยงามจนไปถึงระบบความสะดวกสบายภายในบ้าน และยิ่งเป็นประเทศไทย ไอเดียแบบบ้านระบายความร้อน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญกับประเทศเขตร้อนอย่างบ้านเรา ทำให้ครั้งนี้ทางเราจะได้มารวบรวมข้อมูลไอเดียต่างๆ ที่ช่วยระบายความร้อนให้กับคนในบ้านได้ ไอเดียแบบบ้านระบายความร้อน ให้บ้านนี้เย็นสบายนอนหลับ 1.บ้านจะเย็นสบาย ถ้ารู้จักทิศทางของแสงแดด เริ่มต้นจากสร้างบ้านแบบไม่ร้อน ที่ทำให้ตัวบ้านนั้นสอดรับเข้ากันกับธรรมชาติ เราควรจัดวางแผนการวางบ้านว่าห้องไหนที่ต้องการแสงแดดมากและห้องไหนต้องการแสงแดดน้อย โดยถ้าต้องการห้องที่เลี่ยงแสดแดดเพื่อลดความร้อน ก็ต้องเลี่ยงทิศใต้และทิศตะวันตก 2.ผนังเป็นตัวเก็บความร้อน ต้องรีบแก้ไข ผนังเป็นตัวการที่ทำให้ห้องขนาดเล็กนั้นร้อนง่าย เราจึงควรเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่สามารถกันความร้อน อีกทั้งก็ควรเลือกสีที่มีมวลวัตถุน้อย สีอ่อน แต่ถ้าหากไม่สามารถเปลี่ยนตัวบ้านได้ควรปลูกต้นไม้มาดังแดด และลดกับดูดซับความร้อน 3.ทิศทางลมช่วยระบายความร้อนได้ ทิศแต่ละทิศของบ้านควรมีจุดที่ให้รับลมพัดผ่านไปได้ เช่นการเลือกทิศเหนือกับทิศใต้ เป็นทิศของหน้าบ้านสู่หลังบ้านควรเป็นทางที่ลมผ่านจากด้านหนึ่งไปสู่ด้านหนึ่งได้ง่าย ลมจะช่วยระบายความร้อนได้ดีมากขึ้น 4.พื้นที่เย็น ความร้อนก็ไม่ต้องการ สำหรับบ้านที่เป็นแบบบ้านชั้นเดียวไม่ร้อน จะแนะนำให้โฟกัสไปที่กระเบื้องเป็นระบบช่วยสร้างความเย็นพวกนี้จะเย็นมากขึ้นก็จะเกิดจากการเกิดวัสดุที่ดี กักความเย็นและระบายความร้อนได้ดี เช่น พวกกระเบื้อง พื้นหินอ่อน และพื้นปูนดิบ เป็นไอเดียแบบบ้านระบายความร้อน ง่ายๆ 5.ต้นไม้สีเขียวกับความสงบเย็น ทฤษฎี บ้านเย็น ทุกคนเคยได้ยินกันบ้างไหมหนึ่งในทฤษฎีนั้นก็คือการในบ้านมีพื้นที่สีเขียวหรือพื้นที่ปลูกต้นไม้ ทำให้เป็นที่ร่มเงา กันแดดลดการสะสมความร้อนของตัวบ้าน และสร้างความผ่อนคลาย 6.รอบบ้านบ่งบอกความร่มเย็น แบบบ้านไม่ร้อนไหน ก็ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของบ้านว่าเป็นชุมชนมีลมพัดผ่านได้ไหม มีตึกสูงบังลมหรือไม่ หรือไม่ก็อย่างน้อยรั้วของบ้านไม่ควรเป็นหนาไม่มีลมผ่านควรมีช่องลมผ่านได้บ้าง สร้างบ้านร่มเย็นได้ง่าย […]

ไขข้อสงสัยระหว่างติดวอลเปเปอร์กับทาสี แบบไหนดีกว่ากัน

ติดวอลเปเปอร์

เมื่อตัดสินใจซื้อบ้านได้แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าของบ้านต้องคิดหนักก็คือ ระหว่าง ติดวอลเปเปอร์ กับทาสี จะเลือกแบบไหนดี วันนี้จะพามาดูข้อดีและข้อเสียของการติดวอลเปเปอร์กับทาสี เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจให้กับว่าที่เจ้าของบ้านคนใหม่ กว่าจะมีบ้าน 1 หลังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งการเลือกทำเล โครงสร้างบ้าน ของตกแต่งบ้าน และที่สำคัญปัญหาหลักๆของเจ้าของบ้านก็คือการ ติดวอลเปเปอร์ กับทาสีนั่นเอง เพราะบางคนยังไม่รู้ถึงข้อดีและข้อเสีย อายุการใช้งาน จึงมักจะเกิดคำถามว่าระหว่างทาสีกับติดวอลเปเปอร์แบบไหนดีกว่ากัน ทำความรู้จักกับ วอลเปเปอร์ วอลเปเปอร์เป็นสิ่งที่คนทั่วโลกนิยมกันอย่างมาก สามารถทำงานได้ง่าย เร็ว ไร้กลิ่น แถมยังใช้งบประมาณน้อยที่สุด นอกจากนั้นยังทำให้ห้องสวยงามมีชีวิตชีวา สร้างความหรูหราให้กับผนังห้องตามลายที่เราเลือก สามารถแต่งได้ตามสไตล์ที่เราต้องการ  ข้อดีของวอลเปเปอร์ 1. มีหลากหลายรูปแบบ ด้วยลวดลายที่สวยงามของวอลเปเปอร์ ทำให้ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้านได้ ปัจจุบันวอลเปเปอร์ที่ขายกันทั่วไปก็มีหลายแบบหลายลายให้เลือก จนบางครั้งก็เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว 2. ประหยัดงบและเวลา การติดวอลเปเปอร์ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อห้อง ยิ่งถ้าหากติดทั้งหลังราคาก็จะถูกลงไปอีก ที่สำคัญเราสามารถทำเองได้โดยไม่จำเป็นต้องจ้างช่าง เพียงใช้วอลเปเปอร์ชนิดที่มีกาวในตัว สามารถติดตั้งง่ายแค่ลอกเทปกาวด้านหลังออก แล้วใช้ผ้าลูบที่วอลเปเปอร์ไปตามผนังก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 3. ปกปิดร่องรอยบนผนัง หากผนังมีร่องรอยของคราบสกปรก รอยร้าวของปูน วอลเปเปอร์จะเป็นตัวช่วยที่สามารถปกปิดร่องรอยเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี 4. ไร้กลิ่นรบกวน เป็นที่รู้กันดีว่าการทาสีบ้านมักจะมีกลิ่นเฉพาะของสี แต่สำหรับวอลเปเปอร์บางประเภท […]

5 เทคนิค ล้างเครื่องซักผ้า ให้สะอาดใสกิ๊งเหมือนใหม่

ล้างเครื่องซักผ้า

บางท่านอาจจะกำลังประสบปัญหาเศษสิ่งสกปรกติดมาตามเสื้อผ้าหลังจากที่ซักผ้าเสร็จ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการล้างเครื่องซักผ้าด้วยตนเองกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างช่างมาทำอีกด้วย สำหรับวิธีการที่เราจะนำมาแนะนำกันในบทความนี้จะเป็นการล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าที่สามารถใช้ได้กับเครื่องซักผ้าทุกรูปแบบทั้งแบบฝาบน แบบฝาหน้าและแบบสองถังโดยจะมีเทคนิคอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่า แนะนำวิธีการล้างเครื่องซักผ้าขจัดสิ่งสกปรกด้วยตัวเอง ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชู เทคนิคที่เราจะมาแนะนำก็คือการใช้น้ำส้มสายชูในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า โดยเริ่มต้นจากการเปิดโหมดในการซักด้วยน้ำร้อนและผสมน้ำส้มสายชูลงไปภายในน้ำประมาณ 230 มิลลิลิตร แช่น้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูลงไปแล้วทิ้งไว้ประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมงน้ำส้มสายชูจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและฆ่าเชื้อได้เป็นอย่างดี  ล้างเครื่องซักผ้าด้วยไฮเตอร์  บางท่านอาจยังไม่ทราบว่าไฮเตอร์ก็สามารถใช้ในการล้างเครื่องซักผ้าได้ โดยให้ใส่ไฮเตอร์ลงในช่องใส่ผงซักฟอกประมาณ 30 มิลลิลิตรและเปิดโปรแกรมในการซักแบบปกติ หลังจากนั้นให้หยุดการทำงานเพื่อแช่น้ำที่ผสมไฮเตอร์ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงถ้าหากครบกำหนดเวลาแล้วให้เปิดขั้นตอนในการซักแบบปกติต่อได้เลย  ล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยเบกกิ้งโซดา วิธีการใช้เบกกิ้งโซดาสำหรับการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนให้เปิดน้ำให้เต็มถังเตรียมเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวงเทลงไป หลังจากนั้นกดปุ่มปั่นให้เบกกิ้งโซดาละลาย และทิ้งเอาไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงและสามารถล้างน้ำออกจากเครื่องซักผ้าได้เลยเพียงเท่านี้ก็ขจัดสิ่งสกปรกได้เรียบร้อยแล้ว ล้างเครื่องซักผ้าด้วยการใช้กรดมะนาวและผงวิตามินซี สำหรับวิธีล้างเครื่องซักผ้าด้วยผงวิตามินซีและกรดมะนาวจะทำได้ไม่ยากเพียงแค่ใช้น้ำเดือดผสมกับผงวิตามินซีปริมาณ 200 กรัมและกรดมะนาว 100 กรัมผสมให้เข้ากันหลังจากนั้นให้เทลงในถังเปิดโปรแกรมซักน้ำด้วยร้อนเพียงเท่านี้ก็สามารถขจัดคราบต่างๆได้อย่างหมดจดเลยทีเดียว ล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยผงซักฟอก การล้างถังเครื่องซักผ้าด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้ผงซักฟอกที่ทุกบ้านมีกันอยู่แล้วในการทำความสะอาด โดยใช้วิธีการและขั้นตอนต่างๆเหมือนกันซักผ้ารูปแบบปกติเพียงแค่ไม่ใส่ผ้าลงไปเท่านั้น นับว่าการล้างเครื่องซักผ้ารูปแบบนี้เป็นวิธีการที่ใช้ของใกล้ตัวและทำได้ง่ายเป็นอย่างมาก ขอขอบคุณ รูปจาก https://www.mumkhao.com/view-1650.html  http://bitcoretech.com/how-to-clean-the-washing-machine-as-new-by-yourself-easily/  https://.postsod.com/washing-machine-wash https://th.depositphotos.com/